การขนส่ง คืออะไร และกี่รูปแบบ ?
เนื่องมาจากพฤติกรรมในการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในทุกวันนี้ ส่งผลให้การเติบโตของธุรกิจออนไลน์นั้นก็เติบโตขึ้นตามไปด้วยอย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริโภคกก็เปลี่ยนแปลงมามีการจับจ่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์กันมากขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ในขณะเดียวกันธุรกิจการขนส่ง (Transportation) นั้นเติบโตอย่างรวดเร็วตามไปด้วย และระบบการขนส่งก็มีหน้าที่และเป็นส่วนสำคัญในการเคลื่อนย้ายขนส่งสินค้าหรือพัสดุไปให้ไปถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย พร้อมทั้งการขนส่งยังสามารถส่งสินค้าได้ทุกประเภทแบบไม่มีขีดจำกัดด้านพรมแดน ไปจนถึงข้ามทวีปเลยทีเดียว และสำหรับวิธีการขนส่งบนโลกนั้นมีหลายหลายรูปแบบบนโลกใบนี้ แต่ละรูปแบบก็มีความแตกต่างกันในเรื่องของการรองรับสินค้าแต่ละประเภท ในวันนี้ P.I.E Premium Modern Truck จะมาแบ่งปันข้อมูลของประเภทของการขนส่ง รวมถึงรวบรวมข้อดีข้อเสียมาให้ทุกคนได้ทราบและช่วยในการตัดสินใจเลือกรูปแบบการขนส่งให้กับธุรกิจและสินค้าของตนเองได้อย่างเหมาะสม
การขนส่ง (Transportation) คืออะไร และมีกี่ประเภท
การขนส่ง (Transportation) ก็คือ การขนและการส่ง หรือการที่เคลื่อนย้ายผู้คนหรือสิ่งของ จากที่หนึ่งไปยังจุดหมายปลายทาง โดยเส้นทางหรือวิธีการเคลื่อนย้ายก็จะมีความแตกต่างกันและเหมาะสมกับสิ่งของนั้น ๆ ออกไป ซึ่งในปัจจุบันนี้การขนส่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่
การขนส่งทางบก (Land Transportation)
การขนส่งทางบกนั้นก็สามารถแบ่งออกได้อีกเป็น 3 รูปแบบ ก็คือการขนส่งทางรถไฟ และการขนส่งทางรถยนต์ โดยมีลักษณะที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. การขนส่งทางรถยนต์ (Motor Transportation) หรือ รถบรรทุก (Truck Transportation) ความเหมาะสมสำหรับสินค้าตั้งแต่ขนาดกลางไปถึงขนาดใหญ่ แต่จะเหมาะกับการขนส่งสินค้าในระยะทางสั้นเท่านั้น มีมั้งความสะดวกและความรวดเร็ว แล้วยังขนส่งสินค้าตามความต้องการได้ตลอดเวลา ทำให้สามารถจะจอดแวะพักระหว่างทางหรือเปลี่ยนเส้นทางได้ รวมถึงเวลาการจัดส่งก็สามารถคลาดเคลื่อนได้ ในบางครั้งรถยนต์หรือรถบรรทุกก็จะเป็นตัวเชื่อมในการขนส่งที่การขนส่งประเภทอื่น ๆ ไม่สามารถไปต่อถึงจุดหมายได้
2. การขนส่งทางรถไฟ (Railroads) การขนส่งทางรถไฟถือว่าเป็นยุคของการบุกเบิกการขนส่ง แต่ถึงแม้ว่าในปัจจุบันความนิยมลดน้อยลง แต่ก็ยังถูกนำมาใช้กับการขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนัก ปริมาณมาก และในการขนส่งที่มีระยะทางที่ไกล อัตราค่าบริการไม่แพงแล้วยังสามารถขนส่งสินค้าได้จำนวนมากหลายชนิด ที่สำคัญคือมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่า ทำให้ความปลอดภัยกว่าการขนส่งทางรถยนต์ แต่จะไม่สามารถแวะพักระหว่างทาง หรือจะออกนอกเส้นทางได้ ทำให้มีการกำหนดระยะเวลาการจัดส่งได้อย่างแน่นอน
3. การขนส่งจักรยานยนต์ (Motorcycle) ถูกนำมาใช้กับการขนส่งแบบ Delivery หรือบริการขนส่งแบบเร่งด่วนแบบที่เห็นกันเยอะในปัจจุบัน จะมีความเหมาะกับสินค้าขนาดเล็ก-กลาง และเหมาะสมกับการขนส่งในระยะการขนส่งสั้น ๆ เท่านั้น ทำให้มีความรวดเร็วในการขนส่ง สามารถรับ – ส่งสิ่งของไปได้ถึงที่หมายด้วยเวลาอันสั้น มีอัตราค่าบริการราคาไม่แพงมาก แต่ก็มีข้อกำจัดในเรื่องของการควบคุมอุณหภูมิสำหรับสินค้าบางประเภท เช่นอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงการให้บริการด็ยังมีไม่ทั่วถึงทุกพื้นที่
การขนส่งทางน้ำ (Water Transportation)
มีการขนส่งด้วยเส้นทางแม่น้ำ, ลำคลอง และมหาสมุทรเป็นเส้นทางลำเลียง เหมาะสมกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศหรือขนส่งในระยะไกล ๆ และเหมาะสมกับสินค้าที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงปริมาณที่มาก โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นสินค้าประเภทที่มีความยากแก่การเสียหาย แต่ข้อเสียคือไม่สามารถกำหนดเวลาของการขนส่งได้แน่นอน เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ภูมิอากาศ และ ภูมิประเทศ เป็นต้น แต่สำหรับอัตราค่าขนส่งนั้นถูกกว่าการขนส่งประเภทอื่น ๆ
การขนส่งทางอากาศ (Air Transportation)
เป็นการขนส่งระหว่างประเทศ ที่มีความรวดเร็วกว่าการขนส่งประเภทอื่น ๆ รวมถึงสะดวกและปลอดภัยสูง เหมาะสมมากกับสินค้าที่อาจจะมีความสูญเสียได้ง่ายถ้าหากล่าช้า และมีความจำเป็นที่ต้องไปถึงอย่างเร็วที่สุด อย่างเช่นสินค้าประเภท ผัก ผลไม้ ดอกไม้ แต่ในขณะเดียวกันจะไม่เหมาะกับสินค้าที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักที่มากเกินไป รวมทั้งยังมีอัตราค่าใช้จ่ายสูง แต่การขนส่งทางอากาศก็มีความสำคัญที่ทำให้ธุรกิจนั้นขยายตัวอย่างรวดเร็วทั้งในและต่างประเทศ มีผลต่อการนำเข้า - ออกสินค้าระหว่างประเทศอีกด้วย
การขนส่งทางท่อ (Pipeline Transportation)
ถูกนำมาใช้กับการขนส่งสินค้าประเภทของเหลวและก๊าซ อย่างเช่น น้ำประปา ก๊าซธรรมชาติ หรือน้ำมัน มีลักษณะเด่นจากการขนส่งประเภทอื่น ๆ คือเป็นการขนส่งที่แบบไม่ต้องเคลื่อนที่ด้วยใช้อุปกรณ์ในการขนส่งคือท่อ โดยมีเส้นทางในการขนส่งอยู่บนดิน หรือแม้กระทั่งใต้ดินหรือใต้น้ำก็ได้ แต่จะมีสภาพภูมิอากาศ เป็นตัวกำหนดความแน่นอนของเวลาในการขนส่ง ซึ่งมีข้อดีที่สามารถประหยัดทั้งต้นทุนและไม่จำกัดเวลาหรือปริมาณในการขนส่ง ที่แต่ก็มีข้อเสียคือการลงทุนครั้งแรกจะมีค่าใช้จ่ายเยอะมาก รวมถึงการตรวจสอบหาจุดบกพร่องทำได้ยาก และไม่เหมาะสำหรับภูมิประเทศที่มีแผ่นดินไหวบ่อย ๆ
การขนส่งระบบคอนเทนเนอร์ (Container System)
เป็นการขนส่งสินค้าหรือสิ่งของโดยมีเป็นกล่องบรรจุ เป็นคอนเทนเนอร์ ตู้ หรือ กล่องเหล็กขนาดใหญ่ และการขนส่งด้วยยานพาหนะ เช่น รถบรรทุก รถไฟ เรือ หรือว่า เครื่องบิน ไปยังที่หมายปลายทางอีกที ซึ่งตู้คอนเทนเนอร์มีความแข็งแรง และทนทานต่อสภาพลมฟ้าอากาศ และยังมีความทนทานต่อการยกขนถ่ายสินค้าหรือสับเปลี่ยนระหว่างการบรรทุกได้มาก ทำให้สามารถป้องกันการชำรุดเสียหายของสินค้าได้ รวมถึงยังป้องกันการถูกโจรกรรมได้อีก
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ การขนส่ง (Transportation) คืออะไร
ติดตามข่าวสาร และ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถบรรทุก
ได้ที่ : P.I.E. Premium Modern Truck ขายรถบรรทุก
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : P.I.E Premium Modern Truck
Comentarios