top of page

มาทำความรู้จักกับ "น้ำมันเชื้อเพลิง" แต่ละประเภทกันเถอะ


ทุกคนรู้กันหรือไม่ว่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่เราใช้งานกันอยู่ในทุกวันนี้นั้นมันมีอยู่กี่ประเภท แล้วเราจะเติมให้รถยนต์หรือรถบรรทุกของเราให้เหมาะยังไงดี และยิ่งในสถานการณ์ที่น้ำมันมาราคาพุ่งสูงขึ้นรายวันแบบนี้หลายท่านอาจจะมองหาตัวเลือกในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีราคาถูกลงมา แต่ช้าก่อน ลองมาศึกษาน้ำมันให้เหมาะสมกับการใช้งานและตัวเครื่องยนต์ของเรากันก่อนดีกว่า เพราะการเติมน้ำมันก็เปรียบเสมือนการที่เราเลือกรับประทานอาหารให้มีประโยชน์และเหมาะสมกับตัวเราที่สุดเพื่อสุขภาพที่ดี สำหรับรถยนต์และรถบรรทุกการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เหมาะสมเองก็ไม่ต่างกัน ดังนั้นในวันนี้ทาง P.I.E Premium Modern Truck ก็ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันแต่ละประเภทสรุปมาสั้น ๆ เพื่อความเข้าใจให้ทุก ๆ ท่านกันแล้ว ถ้าหากพร้อมแล้วล่ะก็ เริ่มอ่านไปพร้อม ๆ กันเลย


การเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เหมาะสมมีความสำคัญยังไง ?

หัวจ่ายน้ำมัน ซึ่งมีหน้าที่ฉีดน้ำมันเข้าไปในห้องเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์นั้น ถ้าหากเราเติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่เหมาะสมกับตัวรถรวมถึงเครื่องยนต์จะทำให้เกิดการทำงานที่บ่งพร่องของหัวจ่ายน้ำมันหรือเกิดการอุดตันขึ้นได้ ดังนั้นการที่เราเลือกเติมน้ำมันให้เหมาะสมก็จะเป็นเหมือนการบำรุงรักษาหัวจ่ายน้ำมันให้มีคุณภาพที่ดีอยู่เสมอ และก็จะทำให้รถยนต์หรือรถบรรทุกทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอยู่ตลอดนั่นเอง


สำหรับในปัจจุบันนี้น้ำมันเชื้อเพลิจะงสามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ น้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และน้ำมันดีเซล และก็จำแนกออกอีกเป็น 7 ประเภท ดังนี้


1. น้ำมันเบนซิน

น้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากการกลั่นออกมาจากน้ำมันดิบ นำมาเข้าสู่กระบวนการต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้น โดยเรียกว่า ออกเทน ซึ่งค่าความเข้มข้นของออกเทนจะขึ้นอยู่กับการใช้งานแต่ละประเภท ในปัจจุบันน้ำมันเบนซินมีอยู่สองอย่าง คือ น้ำมันเบนซินธรรมดาหรือ น้ำมันเบนซิน 91และ น้ำมันเบนซินพิเศษ หรือน้ำมันเบนซิน 95

- น้ำมันเบนซินธรรมดา หรือ น้ำมันเบนซิน 91 มีค่าออกเทนอยู่ที่ 91% และประกอบด้วยส่วนผสมจากน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว โดยที่ไม่มีการใช้ส่วนผสมเอทิลแอลกอฮอล์ใด ๆ แต่ในปัจจุบันยกเลิกขายน้ำมันชนิดนี้ไปแล้ว

- ส่วนน้ำมันเบนซินพิเศษ หรือว่า น้ำมันเบนซิน 95 มีค่าออกเทนที่สูงถึง 95% เป็นค่าออกเทนที่สูงที่สุดในปัจจุบัน และยังประกอบด้วยส่วนผสมจากน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว หรือ เอทิลแอลกอฮอล์ ทำให้สามารถใช้ได้กับรถยนต์แทบทุกประเภท ทำให้มีการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ที่สมบูรณ์และสะอาด พร้อมมีประสิทธิภาพในการขับขี่ แต่ก็มีราคาที่สูงเช่นเดียวกัน


2. น้ำมันแก๊สโซฮอล์

เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้แอลกอฮอล์สกัดจากพืช อย่าง มันสำปะหลัง ข้าวโพด และอ้อย เรียกว่า เอทานอล หรือ เอทิลแอลกอฮอล์ แล้วนำมาผสมกับน้ำมันเบนซิน มาเป็นพลังงานทดแทน และส่วนใหญ่จะมีสัญลักษณ์ตัว E ที่บ่งบอกถึงการมีเอทานอลผสมอยู่ ทำให้รถที่สาสามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ได้ จะต้องเป็นรถที่ได้รับการออกแบบวัสดุชิ้นส่วนต่างๆ มาเฉพาะเพื่อให้ทนกับการกัดกรอนจากเอทานอล โดยน้ำมันแก๊สโซฮอล์ จะแบ่งได้เป็น 4 ประเภทคือ

- แก๊สโซฮอล์ 91 มีส่วนผสม น้ำมันเบนซินออกเทน 91 อยู่ 90% กับเอทิลแอลกอฮอล์อยู่ 10% และมีค่าออกเทนออกมาเทียบเท่าเบนซิน 91 รวมถึงมีคุณสมบัติตามมาตรฐานเทียบเท่ากัน ซึ่งก็ถูกนำมาใช้ทดแทนน้ำมันเบนซิน 91 ธรรมดาในราคาที่ถูกย่อมเยาอีกด้วย ต้องใช้สำหรับรถที่มีการระบุว่าใช้กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 เท่านั้น และก็จะสามารถเติมน้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันโซฮอลล์ 95 ได้ด้วย

- น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 มีส่วนผสมของน้ำมันเบนซินออกเทน 95 อยู่ที่ 90% กับเอทิลแอลกอฮอล์ อยู่ 10% และมีค่าออกเทนออกมาเทียบเท่ากับเบนซิน 95 จึงถูกใช้ทดแทนน้ำมันเบนซิน 95 นั่นเอง ส่วนสมรรถนะในการขับขี่ตอบสนองเร็วได้เทียบเท่ากับน้ำมันเบนซินออกเทน 95 และนอกจากนี้ยังมีราคาที่ถูกกว่าอีกด้วย แต่มีการระเหยของน้ำมันเชื้อเพลิงมากทำให้ไม่เหมาะกับการจอดนาน ๆ และควรใช้กับรถที่มีการระบุให้ใช้กับแก๊สโซฮอล์ 95 เท่านั้น

- น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ E20 หรือว่าเบนซิน E20 มีส่วนผสมของน้ำมันเบนซินออกเทน 95 อยู่ 80% ผสมกับเอทิลแอลกอฮอล์อยู่ 20% ทำให้เรียกว่า E20 นั่นเอง มีประสิทธิภาพการใช้งานและอัตราเร่งที่น้อยกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 แต่ราคาก็ค่อนข้างถูก ในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิง E20 จำเป็นต้องเช็กให้แน่ใจว่าเครื่องยนต์มีการรองรับน้ำมันชนิดนี้ โดยสังเกตที่ตัวฝาถังระบุว่าสามารถใช้น้ำมันแก็สโซฮอลล์ E20 ได้ก็สามารถเติมได้ สำหรับรถที่ไม่มีการระบุไว้ห้ามเติมโดยเด็ดขาด

- น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ E85 มีคล้ายกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 แต่แตกต่างในเรื่องของอัตราส่วนผสม คือมีการผสมน้ำมันเบนซินออกเทน 95 อยู่ที่ 15% กับเอทิลแอลกอฮอล์85% ทำให้ถูกเรียกว่า E85 ด้วย มีราคาถูกที่สุดในกลุ่มเพราะสัดส่วนของเอทานอลที่มากถึง 85% และสิ้นเปลืองกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E20 รถที่สามารถเติมได้ต้องมีการระบุชัดเจนที่ฝาถังว่าสามารถเติมได้


3. น้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล

สำหรับน้ำมันดีเซลสามารถเติมกับรถที่มีเครื่องยนต์ดีเซลทุกชนิด ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่จำเป็นต้องใช้แรงอัดที่สูงมากเพื่อให้เกิดการจุดระเบิด จะแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

- น้ำมันดีเซล B7 มีส่วนผสมของน้ำมันดีเซล 93% กับไบโอดีเซล 7% จะเหมาะสำหรับรถเก่าและรถยุโรป


- น้ำมันดีเซล มีส่วนผสมของน้ำมันดีเซล 90% กับไบโอดีเซล 10% ถูกใช้ในรถกระบะ รถโดยสารสาธารณะ รถบรรทุกขนาดใหญ่ทั่วไป


- พรีเมี่ยม B7 เป็นน้ำมันตัวพิเศษที่มีราคาสูงกว่าแบบปกติ สามารถเผาไหม้ที่หมดจด ประสิทธิภาพทำงานของเครื่องยนต์เต็มที่ และยังช่วยชะล้างสิ่งสกปรกภายในเครื่องยนต์ได้


- น้ำมันดีเซล B20 มีส่วนผสมของโอดีเซล 20% กับน้ำมันดีเซล 80% เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อช่วยลดมลพิษทางอากาศจากฝุ่นละออง PM 2.5 พร้อมราคาประหยัดอีก สามารถใช้งานได้ใช้สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ รุ่นรถบรรทุกขนาดเล็กและในปัจจุบันก็มีหลากหลายยี่ห้อแล้ว




อ่านเพิ่มเติมได้ที่ น้ำมันเชื้อเพลิง

ติดตามข่าวสาร และ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถบรรทุก

ได้ที่ : P.I.E. Premium Modern Truck ขายรถบรรทุก

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : P.I.E Premium Modern Truck


Comments


Hi, thanks for stopping by!

I'm a paragraph. Click here to add your own text and edit me. I’m a great place for you to tell a story and let your users know a little more about you.

Let the posts
come to you.

Thanks for submitting!

  • Facebook
  • Instagram
  • Twitter
  • Pinterest
bottom of page